Scroll ลง เพื่อดูบทความ
เบื้องหลังเชิง Technical ของระบบรายงานผลเลือกตั้งร่วมกับ Workpoint News
โดย PanJ
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ดูการรายงานผลแบบ Real-time ของ Workpoint News ที่เว็บ https://vote.workpointnews.com ซึ่งจัดทำโดยทีม Cleverse ของเรา บทความนี้ จะมาเล่าถึ ...
ไขปริศนา ความท้าทายต่าง ๆ ในการก้าวไปสู่ตำแหน่ง CTO
โดย PanJ
ในสายอาชีพ programmer/developer ตำแหน่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าสูงที่สุดแล้วน่าจะหนีไม่พ้น Chief Technology Officer หรือ CTO ซึ่งมีชื่อเรียกภาษาไทยเก๋ ๆ ว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี เอาจริง ๆ แล ...
Solving BigData with BigQuery (3/3) — ใช้จริง
โดย SARIN
บทความนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Google BigQuery: Serverless Data Warehouse จาก Google ครับ บทความนี้เป็นเนื้อหาพาร์ทสุดท้ายจาก ซีรีส์แนะนำ Google BigQuery ของ Cleverse โดยบทความนี้จะเน้นไปที่แนวทางต่างๆ ...
Solving BigData with BigQuery (2/3) — ลองเล่น
โดย SARIN
คุณมีปัญหากับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ใช่ไหม? — ลองมาใช้ BigQuery ดูสิ 0) เกริ่นนำ หากคุณเป็นคนที่ทำงานในสายงาน Data Science หรือใกล้เคียง คุณอาจจะเคยได้ยินคนพูดถึง BigQuery มาบ้าง สรุปแบบสั้นๆเลยคือ ...
Solving BigData with BigQuery (1/3) — บทนำ
โดย SARIN
หลายๆคนอาจจะมองว่าการจัดการ Big Data เป็นเรื่องลำบาก — ตั้งแต่การวางแผนติดตั้งระบบ การนำข้อมูลเข้า จนถึงการ Query ข้อมูลแต่ละครั้งซึ่งทำได้ยากและใช้เวลานาน แถมพอใช้งานจริงก็ต้องคอยดูแลอีก วันนี้บล็อกน ...
ของโคตรดี! เมื่อแทนที่ GraphQL Backend ด้วย Graphcool!
โดย ชิน
สำหรับท่านที่ไม่เคยใช้ GraphQL มาก่อน น่าจะเคยใช้ชีวิตร่วมกับ REST มาก่อน ซึ่งตัว REST จะมีความต่างที่ชัดเจนจาก GraphQL คือ REST เราต้องกำหนด endpoint เต็มไปหมด ถ้า model เปลี่ยนไปเรื่อยๆต้องมาแก้ทีละ ...
ENGINEERING
DESIGN
CULTURE
Cleverse, a venture builder, with people who have fun building the future. If you also consider building the future a fun and meaningful purpose — let’s find a way we can work together.
121/75 RS TOWER 24th Floor
Ratchadaphisek Road
Dindaeng Bangkok 10400
Thailand
24.May.2018
โดย Nut

4 หลักจัด illustration อย่างไรให้ง้ามงาม

Scroll down

เคยไหมวาด illustration เท่าไหร่ก็ไม่สวย แก้ยังไงก็ไม่ขึ้น ทำเพิ่มยังไง สีจะใส่ตรงไหน วันนี้เรามี 4 หลักมาแนะนำให้กันให้งานดีและสวยขึ้น

เกริ่นก่อนเลยตอนนี้เราจะมาสร้างกระบวนการคิด illustration ว่าจะทำอย่างไรให้งานดี เคยสงสัยไหมว่าทำไมงานของเราถึงยังดีไม่พอแต่ไม่รู้จะใส่อะไร ส่งให้คนอื่นดู แต่เรายังรู้สึกว่าขาดแต่คิดไม่ออก

ตอนนี้ลองใหม่ ลองปรับความเข้าใจและสร้างผลงานไปพร้อมกับผมดูนะครับ

 

1. Concept และ Theme

ช่วงคิดไอเดียว่าจะสร้างอะไร จะทำงานแบบไหน ลองสร้างคอนเซ็ปต์สิ่งที่เราต้องการดู หาแบบง่ายๆ ที่เราอยากทำ อย่างผมตอนนี้อยากสร้างแนวธรรมชาติและค่อนข้างเกินความเป็นจริง ลองหาสีองค์ประกอบมาเป็น Ref

ตัวผมเองจะลองวาดคร่าวๆก่อนว่าอารมณ์จะประมาณไหน วางองค์ประกอบไว้ตรงไหน อะไรเป็นจุดเด่น เราไม่จำเป็นต้องวาดในกระดาษสวยก่อนก็ได้ เพราะตัวเราเองที่จะต้องใช้เวลาในการทำต่อในโปรแกรม

ภาพสเก็ตช์ในกระดาษ

ถ้าคิดว่าดีแล้วก็ไปลงในโปรแกรมกันเลย

ภาพในโปรแกรม illustrator

ตอนนี้ผมวาดทีละชิ้นส่วนของงานหลักๆตามที่สเก็ตช์ไว้และใช้ธีม Low poly ให้งานดูคล้ายงานสามมิติ

TIPS : หาเรฟแนวๆใน Pinterest และ Dribbble และลองวาดคร่าวๆดู การหาเรฟที่ดีนั้นไม่ตายตัว ลองคิดให้ต่างดูว่าสามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมในสิ่งที่มีอยู่มั้ย จะได้อะไรที่ดีกว่างานที่มีอยู่

 

2. การควบคุมปริมาณสีในงาน

ถ้าเราไม่คุมสีในงานจะทำให้งานดูมั่วและเละเทะ ดังนั้นเราจึงควรคุมสี ให้งานดูเหมือนผ่านการออกแบบมาแล้ว
(ภาพงานที่ไม่ได้คุมสี)

การใช้สีที่ดีจะนำมาซึ่งงานที่ดี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะใช้สีอะไร เราควรจับคู่สียังไงดี ? เราก็มีวิธีที่ทำให้กำหนดสีได้เร็วๆกัน

กำหนดสีอย่างรวดเร็วด้วย Adobe Color

เราเลยใช้เว็บ Adobe color ช่วยให้เราสามารถเลือกสีที่เข้ากันได้ดี โดยเว็บนี้จะมี Palette สีที่หลากหลาย สามารถเปรียบเทียบได้ทันที
ทำให้เราเลือกสีที่ต้องการได้เร็วขึ้น
( ภาพหน้าตาของ เว็บ Adobe Color (Kuler) )

โดยที่ Adobe color นั่นจะมีสีให้เราเลือกหลายสี หลายอารมณ์ ลองเลือกสีที่คิดว่าตรงกับคอนเซปของงาน สีที่มีหลายระดับจะทำให้งานมีภาพรวมที่ดีขึ้น

หลังจากเลือกสีแล้ว กำหนดสีแล้วว่าจะใช้อะไร แต่เดี๋ยวก่อน แล้วเราจะควบคุมปริมาณสียังไงล่ะ จะคุมยังไงให้งานมีภาพรวมที่เหมาะสมดี

มาเลยลองมาควบคุมปริมาณของสีด้วยการใช้หลักการกัน !

 

การคุมปริมาณของสีโดยใช้ Golden ratio

การเลือกวิธีการคุมปริมาณสีแบบ Golden ratio นั้น เป็นการใช้สีแบบกำหนดภาพรวมของงานว่า สีในระดับไหนจะคุมในส่วนใด
เช่นในภาพนี้สีหลักจะเป็นสีที่ใหญ่กว่าก็คือสีแดง

โดยหลักการใช้สีของ Golden ratio นั้นจะมีภาพออกมาในลักษณะแบบนี้

Primary – สีที่เน้นเกือบ 70% ของทั้งภาพ โทนค่อนไปทางกลางๆ ไม่โดดเด่น
Secondary – สีที่เป็นส่วนทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น มี 25%
Accent – สีที่เน้นเฉพาะจุดทำให้เกิดจุดสนใจ 5%
( สีที่ลงไปที่งานจะไม่ได้มีปริมาณตามที่เขียนไว้เป๊ะๆ เพียงแต่เราจะมีตารางสีไว้เพื่อดูเป็นแนวทางว่าสีไหนต้องเยอะกว่าสีไหนในปริมาณเท่าไร)

ลองคิดสีแล้วนำมาใส่กันดู

สีของผมที่จะเอาไปใช้ในงานมีประมาณนี้

น้ำเงินเป็น Primary ฟ้าอ่อน Secondary สีชมพู Accent สีขาวเป็นพื้นรอง

 

สีที่ลงไปที่งานจะไม่ได้มีปริมาณตามที่เขียนไว้เป๊ะๆ เพียงแต่เราจะมีตารางสีไว้เพื่อดูเป็นแนวทางว่าสีไหนต้องเยอะกว่าสีไหนในปริมาณเท่าไรจะทำให้งานไม่หลุดไปจากภาพรวมครับ

หลังจากได้หลักการคุมสีแล้วผมได้วางสีไว้ทุกจุดของงานให้มีมิติโดยการใช้ Ratio ทั้งในปลาวาฬ และตัวเพชรให้มีสัดส่วนพอๆกัน และยังคิดถึงสัดส่วนของสีตัวปลาวาฬว่าจะมีสีชมพูตรงช่วงไหน ระยะความไกลของปลาวาฬก็ทำให้สีฟ้าอ่อนๆให้ดูไกล

TIPS : การเลือกสียิ่งเลือกสีมากขึ้นก็มีการคุมสีที่มากขึ้น ในระดับเริ่มต้นควรใช้สีไม่เยอะเกินไป จะทำให้ออกแบบภาพได้ง่ายกว่าใช้หลายสี

หลังจากที่เราลองใส่สีและกำหนดปริมาณของสีแล้ว

3. องค์ประกอบที่สำคัญทำให้เกิดความสนใจ

กำหนดจุดสนใจหลักของงาน

หลังจากร่างภาพลงใน vector แล้วให้เรานำของที่อยากวางให้เป็นจุดสนใจไปวางอยู่ในตำแหน่งของ Rule of Thirds

การวางของใน Rule of Thirds จะช่วยให้งานออกมาดูลงตัวและ Balance แบบนี้

ภาพการจัดวางแบบ The Rule of Thirds

ด้วยเทคนิคนี้จะทำให้เกิดความน่าสนใจ ทำให้มีจุดเด่นมากขึ้น

TIPS : อาจจะเพิ่มความน่าสนใจขึ้นไปอีกขั้นด้วยการใช้ Golden Ratio เพื่อเพิ่มความสนใจผนวกจัดหลายองค์ประกอบยิ่งวางเท่าไหร่ยิ่งทำให้เกิดความน่าสนใจได้มาก

การวางของซ้ำๆทำให้งานดีขึ้น

ลองวางvectorที่เหมือนๆกันในลักษณะที่ต่างกันดู โดยในภาพจะใช้องค์ประกอบที่เล็กลงมาจากจุดหลักของงานให้ภาพรวมดูมีรายละเอียด

หลังจากลองลงสีที่ภาพในขั้นแรกแล้วพบว่างานยังดูธรรมดา เลยลองใส่อย่างอื่นเพิ่มเติมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับผมได้สร้างเงาของฟองน้ำในรูปแบบสี่เหลี่ยมที่ตัดไปกับแถบวงกลม และลองนำไปใส่ไว้ในงาน

 เทคนิคการวางของซ้ำลงในงานโดยใช้วัตถุประกอบ

ของเล็กๆที่มีอยู่ในงานจะทำให้ภาพรวมมีเนื้องานมากขึ้น ไม่โล่ง เพิ่มความน่าสนใจลงไปในงานมากขึ้น

 

4. รายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็สำคัญ

ตอนนี้ทุกคนอาจจะคิดว่างานเสร็จแล้ว ส่งได้เลย แต่เดี๋ยวก่อน ลองเช็ครายละเอียดของงาน หรือลองเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปดู

บางทีจะมีข้อผิดพลาดเหมือนเส้นไม่ตรงหรือบางอย่างที่ยังเก็บไม่ละเอียดอยู่ เช่นสีผิด ไม่ครบในบางจุด
ก็ควรเพิ่มเติมให้เต็มที่ ตรวจงานให้เรียบร้อยก่อนส่งงานให้ลูกค้านะครับ

และถ้าเราคิดว่างานยังแห้งๆ ไม่มีอะไรดึงดูด ลองเพิ่มรายละเอียดของสิ่งของนั้นดู จะทำให้งานมีรายละเอียดมากขึ้น

( ภาพการเก็บรายละเอียดในงาน )
สำหรับผมแล้วเราเก็บขอบของตัวคริสตัลที่ยังซ้อนกันอยู่ ให้งานสะอาดไม่มีขอบรบกวนเลยเก็บขอบให้เรียบร้อย

เพิ่มเติมแสงสะท้อนให้งานเด่นมากขึ้น มีมิติของงานมากขึ้น ทำให้ภาพมีความสวยงามขึ้น

 

หลังจากงานเสร็จนั้นก็ลองนั่งดูและตรวจงานก่อนว่าเรียบร้อยดีพอหรือยัง บางส่วนยังมีรายละเอียดที่แก้นิดหน่อยก็ควรแก้ ทำให้งานสะอาดและดูใส่ใจกับงาน

เรียบร้อยเป็นอันเสร็จงาน !

คำแนะนำเพิ่มเติม

การทำ illustration ให้สวยควรหมั่นฝึกฝนเยอะๆ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นอะไร ลองอะไรที่แปลกใหม่จะได้ผลลัพธ์และความเข้าใจมากขึ้น
แล้วพบกันกับบทความถัดไปจากฝ่ายดีไซน์จ้า

มนุษย์สายดีไซน์ที่รักสัตว์มีขน เป็นเพนกวิ้นตัวใหญ่ใจดี ติ่งสตาวอร์ ชอบดาธเวเดอร์ แฟนคลับ order 66 งานอดิเรก วาดรูปเล่น เป็นคนชอบทำอาหารและเล่นดนตรี
Next Article
ไขปริศนา ความท้าทายต่าง ๆ ในการก้าวไปสู่ตำแหน่ง CTO
สมัครงาน